วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

OS : Dessert {LeoBin}





SF : Dessert {LeoBin}









Nc นะคะ ใครไม่ชอบไม่ต้องอ่านได้น้า^^









            ภายในห้องอาหารขนาดใหญ่ในคอนโดหรู แสงไฟสีเหลืองนวลส่องให้ความสว่างกับเจ้าของห้อง บนตะอาหารขนาดกว้างที่ทำจากไม้เนื้อดีเคลือบเงาจนสวยปรากฏจานเปล่าสองใบอยู่ด้านหนึ่งของฝากโต๊ะ ในขณะที่อีกด้านกลับเห็นเพียงเงาสลัวของคนสองคน



            “ทำไมล่ะ นายกลัวหรือไง”

            เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบชิดริมใบหูเล็ก จมูกโด่งสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกลุ่มผมนุ่มมือ จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดไปตามโครงหน้าด้านขวาของอี ฮงบิน ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

            “คุณชาย...ปล่อยผมก่อนนะ”

            เสียงหวานละล่ำละลั่กบอกอย่างตื่นตระหนก ดวงตากลมโตหลับสนิทอย่างไม่กล้ามองภาพตรงหน้า แต่กลับรู้สึกถึงฝ่ามือใหญ่ที่ลูบแถวปลายคางได้เป็นอย่างดี


            “ลืมตาสิฮงบิน เชื่อฟังฉันนะ”

            จอง แทคอุน พูดเสียงเบาเพื่อปลอบโยนอาการสั่นกลัวที่แสดงออกมา มือใหญ่ลูบไปตามใบหน้าสวยหวานของคนเด็กกว่าอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมดุทอดมองร่างที่ยืนชิดกับโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่อย่างถูกใจ


            “คุณชาย...”

            เสียงหวานขาดหายไปในลำคอเพราะฮงบินเองเป็นฝ่ายที่รีบหุบปากจนสนิทเพื่อกลั้นน้ำเสียงแปลกๆ ของตัวเอง ฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ขาอ่อนผ่านกางเกงเนื้อผ้านุ่มใส่สบาย จนขาเรียวทั้งสองข้างรีบขยับชิดกันมากขึ้นเมื่อเริ่มรู้วูบไหวในท้องน้อย



            ตุบ!

            “ฉันชอบที่นายเรียกแบบนี้นะ”

            แขนแกร่งรัดรอบเอวคอด และยกครั้งเดียวจนร่างเพรียวบางขึ้นไปนั่งอยู่บนโต๊ะตัวกว้าง ดวงตาคมดุเคลือบไปด้วยแววตาของความปรารถนา เสียงทุ้มพูดออกมาอย่างพอใจ


            “ของหวานนี่ จะอร่อยไหมนะ”

            แทคอุนกระซิบถามคนที่พยายามย่นคอหนีเสียงเบา มือใหญ่ปาดเอาวิปครีมที่ตกแต่งบนจานขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ แตะเอาไว้ที่กลีบปากสีสวยของร่างที่กำลังนั่งหันหน้าหนีบนโต๊ะทานข้าว


            “อื้ม”

            ริมฝีปากร้ายกาจกดจูบลงมาอย่างเอาแต่ใจ เรียวลิ้นร้อนลุกไล่ในโพรงปากเล็กเหมือนบังคับให้ฮงบินกลืนที่แทคอุนตั้งใจป้อนลงมา มือใหญ่ไล้ไปทั่วแผ่นหลังบางผ่านเสื้อยืดเนื้อผ้านุ่ม ก่อนจะหยุดมือไว้ที่ปมด้านหลังของผ้ากันเปื้อนสีดำ


            “หวานกว่าที่คิดนะ”

            เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาตรงใบหูเล็ก ใบหน้าหล่อผละออกมาเพื่อให้ร่างบางที่นั่งหน้าแดงก่ำได้หยุดหายใจ แทคอุนใช้นิ้วโป้งปาดคลึงริมฝีปากสีสวยช้าๆ ก่อนจะแตะที่ริมฝีปากตัวเอง


            “เอ่อ คุณชาย...ผม...”

            ฮงบินพูดต่อได้เพียงเท่านั้นเพราะรู้สึกถึงแรงกระตุกจากปมของผ้ากันเปื้อนหลุดลง และภายในไม่กี่นาทีกางเกงเนื้อผ้าสบายพร้อมชั้นในก็ถูกปลดลงจากร่าง เสื้อยืดสีสวยถูกถอดทิ้งไปจนได้แต่นั่งตัวสั่นนิดๆ


            “ใส่แค่นี้ก็พอ”

            มือใหญ่จัดการใส่ผ้ากันเปื้อนสีดำที่ถอดออกมาพร้อมเสื้อยืดลงไปอีกรอบ ก่อนจะเอื้อมไปมัดปมหลวมๆ ทางด้านหลัง พร้อมกับละมือไปลูบตามแผ่นหลังบาง


            “จะทานของหวานแล้วนะ”

            แทคอุนพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะค่อยๆ ปาดวิปครีมลงไปตามผิวแก้มใส และลามไปทั่วผิวขาวจัดที่ตัดกับสีผ้ากันเปื้อนเป็นอย่างดี



            “อ๊ะ!...คะคุณชาย”

            เสียงหวานเริ่มครางออกมานิดๆ เมื่อนิ้วยาวเคลื่อนไปใต้ผ้ากันเปื้อนสีเข้ม ก่อนที่ผู้รุกล้ำจะจงใจปาดเนื้อครีมลงบนยอดอกทั้งสองข้างจนมันเริ่มแข็งสู้มือ

            “น่าอร่อยนะ”

            เสียงทุ้มยังคงพูดต่ออีกรอบราวกับชมอาหารหน้าตาน่าทาน แต่ต่างที่อาหารจานนี้กลับเป็นร่างขาวนวลเนียนภายใต้ผ้ากันเปื้อนสีดำขนาดใหญ่ และแสงไปสีนวลสวยที่ทำให้รู้สึกยั่วยวน


            “อ๊า...อะ...คุณ...”

            ริ้นล้อนจงใจไล่เลียครีมสีขาวตามผิวจนมาหยุดอยู่ที่หน้าอกของร่างบางก่อนจะช้ริมฝีปากครอบทับลงไปอย่างเอาแต่ใจ มือใหญ่อีกข้างไต่ละไปตามเรียวขาขาวและค่อยๆ กดนิ้วเรียวเข้าไปตามช่องทางที่ตอดรัดอย่างเชิญชวน


            “ฉันจะกินให้ไม่เสียของเลยล่ะ”

            เสียงทุ้มพูดออกมาเท่านั้นก่อนจะเริ่มปลดกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวที่พยายามกดสอดเข้าไปในตอนแรกถูกถอนออกอย่างรวดเร็ว



            ผลุ่บ!

            “อื้อ...แน่น...มันแน่นไป”

            เสียงหวานครางออกมาอย่างตกใจที่นิ้วยาวทั้งสามถูกถอนออกไป แต่กลับแทนที่ด้วยอะไรที่ใหญ่โตกว่าเดิม มือเล็กเกาะไหล่แกร่งของคนตรงหน้าเอาไว้เพื่อกันตัวเองหงายหลังไปกับโต๊ะทานข้าว



            “ช้า..ช้าหน่อย...คุณ....”

            มือเล็กบีบไหล่กว้างจนแน่น หัวเล็กโยกคลอนไปตามแรงส่งของร่างที่ยืนอยู่บนพื้น โดยที่ฮงบินทำได้เพียงนั่งทิ้งตัวลงไปกับแขนแกร่งที่โอบรัดตัวเอาไว้เพื่อรองรับแรงกระแทกจากร่างสูงที่ส่งมาอย่าง

            รวดเร็ว

          รุนแรง

          ...และเนิ่นนาน





            พุ่บ พุ่บ พุ่บ

            เสียงกระทบกันของผิวเนื้อดังก้องไปทั่วห้องที่ไร้เสียงอื่นของคอนโดกว้าง ร่างสูงใหญ่ขยับเอวสอบรัวเร็ว ใบหน้าหล่อเหลาดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะเริ่มขยับกายเร็วขึ้นเพราะแรงตอดรัดที่ทำให้รู้ว่าร่างขาวจัดภายใต้ผ้ากันเปื้อนสีดำใกล้จะถึงปลายทางในไม่ช้า


            “อื้อ”

            เสียงหวานครางลั่นห้องทานอาหารกว้าง ร่างบางหอบหายใจรุนแรงพร้อมกับหยาดน้ำอารมณ์ที่ปล่อยออกมาจนเลอะไปทั่วทั้งผ้าผืนสีดำ


            “ฉันยังไม่อิ่มเลยนะ”

            สะโพกสอบขยับเข้าออกรัวเร็วอีกสักพักจนฮงบินรีบขยับมาจับบ่ากว้างไว้แน่นเพราะแรงอารมณ์ที่สงบลงไปกลับตีขึ้นมาอีกรอบ ร่างบางบิดกายหลายครั้งอย่างเสียดเสียว


            “อืม”

            เสียงทุ้มครางต่ำข้างใบหูเล็กเมื่อปล่อยอารมณ์ออกมาทุกหยดหยาดจนมันไหลเยิ้มทั่วเรียวขาขาว พร้อมกับร่างบางที่ถูกส่งให้ถึงปลายทางเป็นครั้งที่สองของวันนี้


            “ฮงบิน ฉันยังกินได้อีกนะ”

            แทคอุนยอมถอนกายออกมาจากคนที่นอนแผ่ลงไปกับโต๊ะทานข้าวตัวใหญ่ ก่อนที่แขนแกร่งจะช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ประดับอยู่ตรงมุมปากหยัก





END!

แท็ก  #เชนอัพเลบิน #ขนมหวาน



Talk:28/03/16

            ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ มันไม่มีอะไรอย่างร้ายแรงงง ทำให้น้องที่รู้จักเพราะสัญญาเอาไว้ น้องสายมังงะค่ะเลยขอแบบนี้555

       เด็กดีทางนี้เยยยย จิ้มมม
       ทวีตมิ้นนน จิ้มมมมม

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

OS : Cos dress [LeoxBin]



                OS : Cos dress [LeoxBin]





            มือใหญ่ค่อยๆ เกลี่ยไล้ไปตามเรียวขาขาวภายใต้กระโปรงตัวสั้นช้าๆ ทว่ากลับเร้าอารมณ์จนใบหน้าสวยหวานของคนโดนกระทำทำได้เพียงหันหน้าหนีอย่างเขินอาย ฟันคมกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ เพื่อกลั้นน้ำเสียงที่อาจจะหลุดรอดออกไปจนคนภายนอกห้องแต่งตัวหลังเวทีนี้ได้ยิน

            “พี่...คะคอยก่อน” เสียงหวานสั่นไปตามแรงอารมณ์พยายามพูดออกมา มือเล็กพยายามผลักไหล่ร่างสูงที่ยังกักขังเขาเอาไว้จนติดกับกำแพงของห้องแต่งตัวหลายครั้ง

            “รอ? ไม่รอได้ไหม นายผิดเองนะ” ดวงตาคมดุทอดมองร่างบางภายในชุดกระโปรงสีหวานและวิกผมสีแสบตาที่มันรับกับใบหน้าหวานจนดูมีเสน่ห์ เสียงทุ้มพูดออกมาราบเรียบแต่มุมปากหยักกลับยกยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์

            “อื้อ”
            ริมฝีปากร้ายกาจกดจูบริมฝีปากอิ่มสวยของร่างตรงหน้าอย่างเอาแต่ใจ มือใหญ่จับท้ายทอยของฮงบินเอาไว้เพื่อกันคนตัวเล็กกว่าขยับหนี เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนอีกฝ่ายที่ไร้ทางสู้ภายในโพรงปากเล็ก หยาดน้ำสีใสไหลซึมขอบปากเพราะเวลาที่ผ่านไปค่อนข้างยาวนาน ดวงตาคู่โตปิดสนิทรับความร้อนแรงจากริมฝีปากที่กดจูบราวกับแทคอุนจะกระชากวิญญาณของฮงบินทิ้งออกไปพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆ ถอนริมฝีปากเพียงนิดเพื่อให้คนที่หน้าแดงก่ำปรับจังหวะการหายใจ


            “หน้าแดงก่ำเลยนะ”
            แทคอุนพูดต่ออย่างล้อเลียนคนตรงหน้า มือใหญ่ไล้กลีบปากสีสวยที่เจ่อบวมจากสัมผัสร้อนแรงที่เขาป้อนให้ ดวงตาคู่โตที่มักชอบตวัดมองอย่างไม่พอใจกลับไม่ได้ทำให้เขากลัวเลยสักนิด กลับกันตอนนี้สภาพของ อี ฮงบิน กลับน่าจัดการจนห้ามใจยาก

            “กลับห้องก่อนเถอะ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว”
            เสียงทุ้มกระซิบริมใบหูเล็กเบาๆ แขนแกร่งรวบเอวบางเข้ามาจนชิดตัว ขายาวก้าวไปทางด้านนอกโดยที่ข้างกายก็มีร่างบางเดินตามอย่างไม่พอใจเท่าที่ควร

          มาบังคับให้ใส่อีกรอบ เกิดนึกอะไรขึ้นมากัน





            ปึก!
            “พี่!
            เสียงหวานเรียกออกมาเสียงเข้มเมื่อร่างทั้งร่างโดนดันจนติดกำแพงหนาทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องพักที่พักกันสองคน ข้อมือเล็กทั้งสองข้างถูกแทคอุนดันขึ้นเหนือวิกผมสีสวยด้วยมือเพียงมือเดียว ดวงตาคู่คมที่ทอดมาดูวาววับ และเคลือบแฝงไปด้วยแรงอารมณ์จนฮงบินเองยังต้องหันหน้าหนี

            “ดีจริงๆ ที่ขอชุดนี้กลับมา นายเหมาะกับมันนะ”
            ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่แทคอุนกลับเริ่มปลดซิปด้านหลังของชุดกระโปรงตัวใหญ่ช้าๆ จนเหลือเพียงผ้าด้านในที่บางจนแนบลู่ไปกับผิวขาว แขนแกร่งช้อนอุ้มร่างบางขึ้นอย่างรวดเร็ว ขายาวก้าวไปยังเตียงนอนหลังกว้างแบบที่ฮงบินก็รู้ดีว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้



            “อืม”
            เสียงหวานเผลอครางในลำคออย่างพอใจ เพราะริมฝีปากร้ายกาจกดจูบไปตามผิวขาวใสที่โผล่พ้นเสื้อผ้า และมือใหญ่ค่อยๆ เลิกชายซับในตัวยาวจนมันกองแถวเอวคอด

            “นายรู้ตัวไหมว่าสวยแค่ไหน”
            เสียงทุ้มเริ่มแหบพร่านิดๆ ตามแรงอารมณ์ มือใหญ่เลื่อนไปสัมผัสส่วนไวความรู้สึกของร่างบาง แต่ดวงตาคู่คมยังคงมองใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้วิกผมสีสวยกระจายปกคลุมหมอนหนุนสีขาว แก้มใสแดงก่ำและชื้นเหงื่อเล็กน้อยเพราะอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้น


            “อ๊ะ!...อา...มะไม่เอา”
            ฮงบินเผลอครางออกมาเสียงดังอย่างลืมตัวเพราะสัมผัสเปียกชื้นผ่านเนื้อผ้าผืนบางตรงช่วงหน้าอก แต่แทนที่จะฟังคำร้องขอแทคอุนกลับทำเพียงเหลือบตาขึ้นมามองคนที่นอนตัวสั่นไปเพราะแรงอารมณ์ เรียวลิ้นร้อนไล่เลียยอดอกทั้งสองข้างผ่านเนื้อผ้าบาง ที่ครูดกับผิวจนฮงบินรู้สึกมากกว่าทุกครั้ง



            “สวยมาก”
            มือใหญ่ลูบกลุ่มผมสีเข้มของคนที่ส่ายหน้าจนวิกลงมากองบนหมอนช้าๆ ส่วนมืออีกข้างปลดกางเกงยีนส์ตัวใหญ่ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมดุมองภาพตรงหน้าอย่างพอใจ ร่างขาวจัดที่บิดเร่านิดๆ พร้อมกับรอยเปียกชื้นแถวหน้าอกที่ยอดอกทั้งสองข้างดันตัวขึ้นมาจนชัดเจน เรียวขาขาวที่พยายามหนีบตัวเข้าหากันแต่ติดที่เขานั่งคั่นกลางเอาไว้ก็ดูน่าจัดการไม่น้อยเลยทีเดียว




            “อื้อ! อึดอัด”
            เสียงหวานครางประท้วงนิดๆ เพราะความร้อนของแก่นกายที่กดสอดเข้ามาถึงแม้จะเชื่องช้า แต่กลับใหญ่โตจนทำเอาเจ้าตัวต้องพูดออกมา


            “อืม”
            เสียงทุ้มคำรามในลำคออย่างพอใจ ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ กดตัวเองลงไปช้าๆ เพราะเกรงว่าร่างบางจะเจ็บ มือใหญ่เอื้อมไปคว้ามือของฮงิบที่ปัดป่ายไปด้านข้างมาคล้องคอเอาไว้ ก่อนจะตัดสินใจยกร่างบางขึ้นมานั่งทับตักของตัวเองทั้งๆ ที่ร่างทั้งสองยังคงสอดประสานกันอยู่
           
           
            พุ่บ พุ่บ พุ่บ
            “อ๊ะ...พี่...เบา..อ๊า...เบาหน่อย”
            ฮงบินเริ่มครางไม่เป็นศัพท์เพราะแรงขยับจากคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง และไหนจะมือใหญ่ที่พยายามยกเอวเล็กขึ้นลงเพื่อรับแรงจากร่างสูง จนฮงบินทำได้เพียงยอมให้มือใหญ่เป็นคนบังคับทุกอย่าง

            “เจ็บไหม”
            เสียงทุ้มถามคนด้านบนที่ต้องทนรับแรงอารมณ์ของตัวเองอย่างอดห่วงไม่ได้ มือใหญ่จับให้แขนเล็กทั้งสองข้างเกาะคอตัวเองไว้เพื่อกันอีกฝ่ายร่วงหล่น สะโพกสอบขยับเข้าออกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ของคนทั้งคู่




            “อ๊า!
            เสียงหวานครางออกมาพร้อมกับหยาดน้ำขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนไปทั้งเสื้อยืดของแทคอุน ใบหน้าหวานซบลงกับบ่ากว้างอย่างหมดแรงแม้จะรับรู้ได้ว่าร่างด้านล่างยังขยับตัวเข้าออกภายในอยู่ตลอดเวลา


            “อืม”
            แทคอุนขยับตัวให้เร็วขึ้นเพราะแรงบีบกระชับที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายถึงปลายทางแล้ว เสียงทุ้มครางต่ำก่อนจะปลดปล่อยออกมาทั้งหมดจนน้ำสีขาวขุ่นไหลเลอะเรียวขาขาว มือใหญ่ค่อยๆ ยกสะโพกเล็กขึ้น ก่อนจะช้อนอุ้มร่างบางขึ้นแนบอก


            “ฉันล้างให้นะ”
            เสียงทุ้มติดเจ้าเล่ห์ถามขึ้นเบาๆ แต่แทคอุนกลับไม่ยอมฟังเสียงโวยวายของคนที่หมดเรี่ยวแรงเลยด้วยซ้ำ และยังทำเพียงก้าวเข้าห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เพียงพอสำหรับผู้ชายสองคน.....


#เชนอัพเลบิน  #คอสเดรสเลบิน


                Talk

                ให้เด็กคนนึงที่ไปสปอยขอเอ็นซีค่ะ ทีแรกทำแกล้ง พอมาได้นิดนึง ลงก็ด้ายยยย ไม่มีอะไรอย่างร้ายแรง55555
                 สุดท้ายเหมือนเดิม รักคนอ่านทุกคนน้าาา
                 ทวีตค่ะ จิ้มมมม
                 

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

SF: miss you {LeoBin} NC End.

SF: miss you










          



            “นี่พี่! เอามือออกไปเลยนะ”

            หลังจากนั่งแช่น้ำอุ่นๆ มาหลายนาที เสียงหวานของฮงบินก็ร้องลั่นห้องน้ำอย่างตกใจ มือเล็กพยายามแกะแขนที่เลื่อนรวบรอบเอวคอดของตัวเองอยู่หลายครั้ง


            “ก็บอกว่าคิดถึงไง”

            แทคอุนพูดแค่นั้น มือใหญ่เริ่มลูบไปตามผิวขาวเนียนที่เปียกชื้นช้าๆ จมูกโด่งสูดดมกลิ่นกายที่หอมอ่อนๆ ของร่างตรงหน้าอย่างชอบใจ

            “พี่ มันจั๊กจี้นะ”

            ฮงบินเริ่มร้องท้วงเมื่อมือหนาเริ่มไม่อยู่กับที่ จมูกโด่งที่สัมผัสตามลำคอด้านหลังมาพร้อมกับสัมผัสเปียกชื้น และร้อนผ่าวของริมฝีปากที่เริ่มกดจูบ

            “ขอนะ ฉันคิดถึงนายมากเลย”

            “อื้อ!

            เสียงทุ้มพูดออกมาราวกับขออนุญาต แต่ริมฝีปากร้อนผ่าวกลับช่วงชิงลมหายใจจากริมฝีปากสีสวยที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าอย่างเอาแต่ใจ มือใหญ่เริ่มลูบไล้ทั่วผิวกายขาวเนียนของร่างบาง

            “อืม”

            เสียงหวานครางในลำคอตามแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้นมา มือเล็กกำไหล่กว้างแน่นเพราะเสียววูบไปทั้งร่างกาย ใบหน้าของคนทั้งคู่เริ่มเอียงปรับมุมเพื่อความถนัด


            “สวย”

            เพราะอากาศที่ใกล้หมดลงทำให้แทคอุนยอมถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ มือใหญ่ใช้นิ้วชี้เกลี่ยไล้ริมฝีปากสีสวยที่แดงนิดๆ เพราะกิจกรรมก่อนหน้าอย่างชอบใจ

            และภาพของร่างบางผิวขาวจัด ที่หอบหายใจภายในอ่างอาบน้ำ ดวงตาคู่หวานปรือปรอยไปกับสัมผัสที่ปลุกเร้าอารมณ์ก็ทำให้แทคอุนคิดได้เพียงคำเดียวจนต้องพูดออกมา



            “อือ”

            ไม่รอให้ฮงบินได้เถียงอะไรออกมาต่อ แทคอุนก็จู่โจมริมฝีปากที่ยั่วยวนอยู่ตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว แขนแกร่งช้อนอุ้มร่างบางขึ้นจากอ่างอาบน้ำ และก้าวต่อไปยังห้องนอน






            ตุบ

            “แฮ่กๆ พี่...มันเสียวนะ”

            ร่างบางที่ทิ้งตัวบนเตียงนอนขนาดใหญ่หอบหายใจเฮือกใหญ่เพราะลมหายใจที่โดนช่วงชิงมาตลอดทาง มือเล็กทุบไหล่กว้างเบาๆ ก่อนจะโวยนิดๆ เพราะมือใหญ่ที่ลูบไล่ไปทั่วร่างกาย

            “อ๊ะ...พี่...อืม...ตรงนั้น...พี่”

            เสียงหวานครางออกมาอย่างหยุดตัวเองไม่ได้ มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมสีเข้มของคนที่วุ่นวายอยู่แถวหน้าอกอย่างเสียดเสียว


            “หอมนะ”

            แทคอุนพูดสั้นๆ อย่างพอใจ มือใหญ่ลูบคลึงตุ่มไตกลางอกทั้งสองข้างราวกับว่ากลัวมันจะน้อยใจ ริมฝีปากร้ายกาจก็พรมจูบไปทั่วทุกพื้นที่จนถึงแผ่นท้องแบนราบ

            “พี่..อืม ผม เสียว...”

            “ดีแล้วที่รอบนี้ไม่ได้ไปญี่ปุ่น เพราะฉันคงไม่ยากให้นายโชว์กับฮัคยอนแค่สองคน”

            เสียงทุ้มติดเอาแต่ใจพูดขึ้นอีกรอบ มือใหญ่เลื่อนลงไปทางด้านล่าง ก่อนจะค่อยๆ แตะต้องกับช่องทางด้านหลังที่กำลังเกร็งตัว


            “อืม...ทะทำไมอ๊ะ...พี่...”

            ฮงบินที่กำลังโดนรังแกกลั้นใจถามอย่างสงสัย แต่กลับได้คำตอบเป็นเพียงแรงขยับที่มากขึ้น มือเล็กเลื่อนมากำหมอนหนุนใบนุ่มอย่างเสียดเสียวจนทำอะไรไม่ถูก

            “อ๊ะ...แน่น...แน่นไป”

            “อืม”

            เสียงหวานร้องอีกครั้งอย่างตกใจที่นิ้วของคนตรงหน้าถอนออกไป และถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่า ความใหญ่โตที่ค่อยๆ กดสอดเข้ามาทำให้เสียงครางของทั้งสองคนดังเคล้าคลอกันภายในห้องนอนกว้าง


           
            สวบ สวบ สวบ

            “แค่นายเต้นกันรอบนั้นฉันก็หวงแทบบ้าแล้ว ถ้าไม่ติดว่าทุกคนขอฉันไม่ยอมฉากนั้นแน่ๆ”

            สะโพกสอบขยับเร็วและแรงขึ้นเมื่อเห็นฮงบินเริ่มคุ้นชิน เสียทุ้มบ่นในลำคออย่างเอาแต่ใจ และอดไม่พอใจถึงการแสดงของฮงบินในเพลงToxinที่ตอนจอบฮัคยอนเดินมาจับฮงบินเอาไว้จนภาพออกมาดูเหมือนฮงบินกำลังยั่วยวนก็ทำเอาคนที่นิ่งตลอดอดไม่พอใจไม่ได้

            หน้าตาแบบนั้นของฮงบินเขาหวงมันมาก


            “พี่ อ๊ะ..หวงอะไร..อือ...แค่แสดงเอง”

            ฮงบินพยายามพูดกับคนด้านบนอีกรอบ แต่เสียงหวานกลับมาครางไม่เป็นศัพท์อีกครั้งเพราะแรงขยับจากร่างด้านบน สะโพกเล็กขยับรับกับสะโพกสอบอย่างเคยชิน เรียวขาทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นเพื่อเปิดทางให้ความใหญ่โตสอดเข้ามาได้ลึกยิ่งขึ้น


            “อือ พี่...เร็วๆ”

            เสียงหวานร้องขอออกมาอย่างลืมอาย มือเล็กเกาะเกี่ยวไหล่กว้างเอาไว้เพื่อพยุงตัวเมื่อการเคลื่อนไหวทั้งหมดรุนแรงขึ้น

            “อืม”

            เสียงทุ้มคำรามในลำคออย่างพอใจ สะโกพสอบขยับเร็วขึ้นเพราะรู้ว่าคนรักกำลังจะถึงปลายทางในอีกไม่ช้า


            “อื้อ แฮ่กๆ”

            ฮงบินร้องออกมาเมื่อปลดปล่อยออกมาจนเลอะไปทั่วทั้งหน้าท้อง ดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำเยิ้มมองคนรักตัวโตที่กำลำงขยับเข้าออกเร็วๆ อย่างพอใจที่เห็นอีกคนมีความสุข


            “อืม”

            และเพียงไม่กี่นาทีเสียงทุ้มก็ครางต่ำอย่างพอใจ ความอุ่นร้อนทั้งหมดปลดปล่อยออกมาจนแทคอุนรู้สึกได้ว่าฮงบินสะดุ้งนิดๆ ร่างสูงค่อยๆถอนตัวออกช้าๆ ดวงตาคู่คมสบตาร่างบางที่มองมาอย่างแสนรัก



            “คิดถึงมากนะ”

      อ่านต่องับบบบ จิ้มๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

SF: Beautiful Liar , Cowardly Liar {LeoBin} End

Beautiful Liar , Cowardly Liar

PS. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปินนะคะ เป็นชายxชายน้อ และดราม่านะคะ ไม่ชอบกดปิดเลย^^



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ sad love





…This Beautiful Lie
My one last lie to you

นี้เป็นคำโกหกที่แสนงดงาม
นี้เป็นคำโกหกสุดท้ายของผมเอง



            “มาแล้วเหรอ”

            เวลายามเย็นในสวนสาธารณะใหญ่ เสียงนุ่มทุ้มที่แผ่วเบาจนแทบจะกลืนไปกับเสียงลมพัดรอบตัวดังขึ้นทันทีที่เห็นคนที่รอเดินมาถึง ร่างสูงบนม้านั่งตัวยาวขยับตัวขึ้นเพียงนิดเพื่อให้อีกคนเดินมานั่งได้


            “พี่แทคอุนเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่า ไหนพี่บอกไม่ค่อยว่างไง”

            เสียงหวานถามกลับอย่างสงสัย ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มสวยกลับไปให้ ดวงตาคู่สวยปิดลงเมื่อเจ้าของมันยิ้มกว้างให้กับคนข้างตัว ลักยิ้มที่ปรากฏชัดยิ่งขับให้ใบหน้าหวานดูสวยหวานมากยิ่งขึ้น



            “ฉันมีเรื่องสำคัญต้องบอก”

            เสียงทุ้มพูดออกมาอย่างเคร่งเครียด ใบหน้าเรียบนิ่งฉายแววจริงจังจนคนมาใหม่หันมาตั้งใจฟังอย่างสนใจ ดวงตาคู่หวานฉายแววสงสัยจนคนมองอดนึกเอ็นดูท่าทางแบบนั้นไม่ได้

          ฮงบินน่ารัก จนเขากลัวที่จะทำร้าย และน่ารักจนเขาอยากปกป้องไว้







            “หึ ทำหน้าแบบนั้นทำไม ก็แค่จะพาไปดูหนังเรื่องที่อยากดูเฉยๆเอง”

            แทคอุนหลุดเสียงหัวเราะออกมาเพียงนิด ก่อนจะพูดต่ออย่างอดเอ็นดูคนตรงหน้าไม่ได้ มือใหญ่ยกขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มหลายทีจนเจ้าของผมเริ่มหันมาทำหน้างอนอย่างไม่ชอบใจ


            “ไม่ต้องมาจับเลยนะ เดี๋ยวนี้แกล้งกันแบบนี้เหรอพี่”

            ร่างบางลุกขึ้นจากม้านั่งอย่างรวดเร็ว ขาเรียวก้าวหนีไปตามทางเดินอย่างอดน้อยใจที่โดนแกล้งไม่ได้ เดือดร้อนให้คนขี้แกล้งในคราแรกต้องรีบเดินตามง้องอนจนคนที่เดินผ่านไปมายิ้มไปกับความน่ารักของคนทั้งคู่

           



¨¨¨¨¨¨Beautiful Liar¨¨¨¨¨¨




…even if it hurts
i hide myself under a mask to hide the truth

ถึงแม้มันจะเจ็บเจียนตายก็ตาม
ผมซ่อนตัวผมเองไว้ได้หน้ากากก็เพื่อคุณ..







            “โอ้ย เมื่อกี้พี่ได้ดูฉากที่พระเอกพยายามซ่อนตัวจากผู้ร้ายไหม ใจผมนี่เต้นตามเลยล่ะ”

            ทันทีที่ออกมาจากโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ เสียงหวานของคนที่ได้ดูหนังที่ตัวเองชอบก็เล่าเรื่องราวออกมาไม่หยุด เหมือนกับว่าแทคอุนไม่ได้ดูด้วยซ้ำ มือเล็กยังคงถือแก้วน้ำอัดลมแก้วใหญ่กับถังป็อบคอร์นที่เหลือเกินครึ่งเอาไว้



          “ฉันก็ดูนะ”

            “พี่นะชอบหลับประจำเลย ต่อให้เลือกเรื่องที่พี่อยากดูพี่ก็ชอบหลับ อ้อ แล้วยังจะไม่ช่วยผมกินขนมพวกนี้อีก ใจร้ายชะมัด”

         
            ไม่รอให้อีกคนได้เถียงกลับ ฮงบินก็บ่นออกมายาวเหยียด ปากเล็กยื่นออกมาน้อยๆอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินเอาของในมือไปทิ้งลงถังขยะในจุดทางออกจากโรงภาพยนตร์



          “ขี้บ่นนะเรา”

            “เรียบร้อย ต่อไปเรา อืม ผมไปส่งพี่ดีกว่าเนอะ”

            เสียงหวานหันกลับมาพูดกับคนที่อยู่ข้างตัวอย่างเพิ่งนึกได้ ขาเล็กก้าวไปตามทางเดินริมถนนและทำเพียงมองบรรยากาศรอบตัวเงียบๆ
           






            “พี่รู้ไหม ผมเหงานะ”

            หลังจากปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งพื้นที่มานานหลายนาที ฮงบินก็ค่อยๆพูดออกมาเสียงสั่น ใบหน้าน่ารักก้มต่ำมองเพียงแค่พื้นของทางเดินที่ตัวเองกำลังเดินอยู่




            “พี่เงียบมาก เย็นชาที่หนึ่ง ชอบเอาใจผม ตามใจจนผมเคยตัวที่มีพี่อยู่ด้วย...”

            “แต่พี่รู้ไหม พี่น่ะใจร้ายที่สุดเลย”


             ฮงบินหยุดอยู่กับที่เมื่อถึงที่หมาย ดวงตาคู่สวยแดงก่ำและเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใส เสียงหวานพยายามพูดต่อแม้ว่ามันจะสั่นไหวจนน่าสงสาร







            “พี่น่ะ...ฮึก...พี่รักผมเกินไป ถ้าวันนั้น...”

            มือเล็กปิดปากตัวเองแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น ไหล่เล็กลู่ลง ร่างทั้งร่างสั่นเบาๆไปกับแรงสะอื้นที่ฮงบินพยายามหยุดมันเอาไว้





            “พี่ใจร้าย ใจร้ายที่สุด”

            ร่างบางทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างน่าสงสาร มือเล็กพยายามปัดไล่น้ำตาที่ไหลอาบใบหน้า แต่กลับไร้วี่แววที่น้ำตามากมายจะหยุดไหลออกมา ดวงตาคู่สวยที่แดงก่ำมองภาพตรงหน้าอย่างเสียใจ




            “ถ้าแค่วันนั้นผมไม่โง่แบบนั้น พี่จะต้องอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้”

            ฮงบินตวาดลั่นอย่างเจ็บใจ มือเล็กไล่เบาๆตามรูปภาพขนาดเล็กที่แปะเอาไว้หน้าตู้กระจกราวกับว่ากลัวคนในภาพจะจางหายไป




            “รอยยิ้มแบบนี้ แววตาแบบนี้ ทำไมผมเห็นมันได้แค่ไม่นานนะ”

            ร่างบางร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว มือเล็กกำเสื้อตรงช่วงหน้าอกเอาไว้แน่น เสียงร้องไห้ดังไปทั่วทั้งตัวอาคารจนคนที่เดินตามมาได้แต่ยืนนิ่งอย่างอดสงสารไม่ได้




            “ฮงบินพอเถอะ นายต้องยอมรับความจริงได้แล้วนะ”

            “ทำไม ทำไม”

            ฮงบินยังคงถามย้ำๆอยู่แบบนั้น ถึงแม้ว่าแจฮวานที่เดินเข้ามาหาจะประคองตัวเขาขึ้นมาจากพื้น ดวงตาคู่สวยบวมซ้ำจนดูน่าสงสาร





            “ฮงบิน ตั้งสติ แทคอุนไม่มีทางดีใจถ้านายจะยังเป็นแบบนี้อยู่”

            แจฮวานเขย่าไหล่น้องชายตัวเองอย่างอดกังวลไม่ได้ ดวงตาคู่สวยมองหน้าน้องชายอย่างสงสารจับใจ




            “พี่แจฮวาน ถ้าผมยิ้มเขาจะดีใจเหรอ ผมทำไม่ได้ เรายังไม่ทันได้ไปดูหนังเรื่องนั้นด้วยกันเลยนะ ยังไม่เคยไปทะเลด้วยกันตามที่สัญญา...”

            เสียงหวานที่ขาดห้วงพยายามพูดออกมายาวเหยียด ร่างบางทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปด้วยแรงสะอื้น




            “ฮงบินเชื่อพี่ แทคอุนไม่ได้อยากช่วยแล้วให้นายมาร้องไห้แบบนี้ แทคอุนช่วยเพราะอยากให้นายรอด เขาช่วยเพราะเขารักนายนะ”

            แจฮวานยังคงปลอบน้องชายตรงหน้าซ้ำๆ มือเรียวลูบแผ่นหลังของฮงบินหลายรอบจนคนที่นั่งร้องไห้ไม่หยุดเริ่มนิ่งลง แต่มือเล็กยกคงกำเสื้อตัวเองเอาไว้แน่นอย่างอดทน






…its a beautiful pain letting everything go
it kills me inside but I fake a smile
put on a poor disguise the weight I carried is now gone
So please don’t worry anymore oh I’m
มันเป็นความเจ็บปวดที่งดงาม ปล่อยคุณจากไป
ผมจำเป็นต้องทำร้ายตัวเอง กลืนน้ำตาของผมลงไป
และใส่หน้ากากยิ้มให้คุณ ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งอกมากๆ
ได้โปรดอย่างกังวลอะไรเกี่ยวกับผมอีกนะ










            “พี่แทคอุน...วันนี้เราได้ดูหนังด้วยกันแล้วนะ ผมสนุกมากเลย พรุ่งนี้ผมจะมาหาอีกนะ”

            ฮงบินค่อยๆมองตู้กระจกที่เก็บดอกไม้สำหรับญาติที่มาเยี่ยม เสียงหวานพยายามปรับให้นิ่งที่สุด มือเล็กลูบบนรูปภาพช้าๆราวกับจะบอกคนตรงหน้า ใบหน้าหวานยิ้มออกมาใบแบบที่ฮงบินรู้ดีว่าแทคอุนชอบรอยยิ้มของตัวเองมาแค่ไหน



          “ผมรักพี่นะ”

            เสียงหวานพูดออกมาแผ่วเบา ทว่าชัดเจนในความรู้สึกของทุกคนที่ได้ยิน ใบหน้าหวานยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม ถึงแม้ว่าน้ำตาสีใสจะเริ่มไหลลงมาอีกรอบ



            แจฮวานทำได้เพียงดึงน้องชายเข้ามากอดจนแน่น มือเรียวยังคงลูบหลังน้องชายเพื่อปลอบใจอยู่แบบนั้น ความชื้นที่สัมผัสได้ผ่านเนื้อผ้าทำให้แจฮวานรู้ดีว่าน้องชายกำลังพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นมากแค่ไหน

            เสียงสะอื้นเงียบลงพร้อมๆ กับร่างของฮงบินที่ทิ้งตัวลงมาเพราะหมดสติ แจฮวานรีบประคองน้องชายเอาไว้แน่นเพื่อจะพาเดินออกไปขึ้นรถ จากวันที่จะมีความสุข วันนั้นกลับมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ฮงบินรอด รอดมาเพราะแทคอุนที่เข้าไปช่วยเอาไว้


            “นายอวยพรน้องฉันอยู่ใช่ไหม อ่า อยู่บนนั้นคอยดูน้องฉันอยู่ใช่หรือเปล่า..”
           
            แจฮวานพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบของอาคาร ร่างเพรียวโค้งต่ำให้กับตู้กระจกตรงหน้า ดวงตาคู่สวยสั่นไหวนิดๆอย่างอดสงสารคนทั้งสองไม่ได้


            “ขอบคุณนะแทคอุน ขอบคุณที่รักฮงบินมากขนาดนี้”

             
           




I’m a beautiful…
No, a cowardly liar
ผมน่ะ เป็นคนที่โกหกเก่ง...
ไม่สิ คนโกหกที่แสนขี้ขลาด

¨¨¨¨¨¨END¨¨¨¨¨¨

สกรีมหรืออะไรที่แท็ก #เชนอัพเลบิน เลยค่ะ
ถ้าเมนชั่นมิ้นด้วยก็ได้นะ แท็กโหลดไม่ค่อยขึ้นอ่ะค่ะ

Talk: ลง 14/02/16
ไม่มีคำแก้ตัวเลย วาเลนไทน์แบบนี่มิ้นใจร้ายมากที่ทำเรื่องแบบนี้ออกมา ขอโตดดด เป็นเรื่องแรกที่แต่งและยอมรับว่าดราม่า เพราะเขาไม่คู่กันอ่า ถ้ายังไงเม้นหรือแท็กได้นะ แท็กถ้าเมนชั่นมิ้นไปด้วยก็ได้เพราะทวีตโหลดแท็กไม่ค่อยขึ้นเลยช่วงนี้
            ไปแล้วค่ะ รักทุกเม้น ทุกวิว ทุกโหวต ทุกแฟนคลับ รักคนอ่านทุกคนน้อออ^^
              ทวีตมิ้นค่ะ จิ้มๆๆๆๆ