วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

SF: miss you {LeoBin} NC End.

SF: miss you










          



            “นี่พี่! เอามือออกไปเลยนะ”

            หลังจากนั่งแช่น้ำอุ่นๆ มาหลายนาที เสียงหวานของฮงบินก็ร้องลั่นห้องน้ำอย่างตกใจ มือเล็กพยายามแกะแขนที่เลื่อนรวบรอบเอวคอดของตัวเองอยู่หลายครั้ง


            “ก็บอกว่าคิดถึงไง”

            แทคอุนพูดแค่นั้น มือใหญ่เริ่มลูบไปตามผิวขาวเนียนที่เปียกชื้นช้าๆ จมูกโด่งสูดดมกลิ่นกายที่หอมอ่อนๆ ของร่างตรงหน้าอย่างชอบใจ

            “พี่ มันจั๊กจี้นะ”

            ฮงบินเริ่มร้องท้วงเมื่อมือหนาเริ่มไม่อยู่กับที่ จมูกโด่งที่สัมผัสตามลำคอด้านหลังมาพร้อมกับสัมผัสเปียกชื้น และร้อนผ่าวของริมฝีปากที่เริ่มกดจูบ

            “ขอนะ ฉันคิดถึงนายมากเลย”

            “อื้อ!

            เสียงทุ้มพูดออกมาราวกับขออนุญาต แต่ริมฝีปากร้อนผ่าวกลับช่วงชิงลมหายใจจากริมฝีปากสีสวยที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าอย่างเอาแต่ใจ มือใหญ่เริ่มลูบไล้ทั่วผิวกายขาวเนียนของร่างบาง

            “อืม”

            เสียงหวานครางในลำคอตามแรงอารมณ์ที่เกิดขึ้นมา มือเล็กกำไหล่กว้างแน่นเพราะเสียววูบไปทั้งร่างกาย ใบหน้าของคนทั้งคู่เริ่มเอียงปรับมุมเพื่อความถนัด


            “สวย”

            เพราะอากาศที่ใกล้หมดลงทำให้แทคอุนยอมถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ มือใหญ่ใช้นิ้วชี้เกลี่ยไล้ริมฝีปากสีสวยที่แดงนิดๆ เพราะกิจกรรมก่อนหน้าอย่างชอบใจ

            และภาพของร่างบางผิวขาวจัด ที่หอบหายใจภายในอ่างอาบน้ำ ดวงตาคู่หวานปรือปรอยไปกับสัมผัสที่ปลุกเร้าอารมณ์ก็ทำให้แทคอุนคิดได้เพียงคำเดียวจนต้องพูดออกมา



            “อือ”

            ไม่รอให้ฮงบินได้เถียงอะไรออกมาต่อ แทคอุนก็จู่โจมริมฝีปากที่ยั่วยวนอยู่ตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว แขนแกร่งช้อนอุ้มร่างบางขึ้นจากอ่างอาบน้ำ และก้าวต่อไปยังห้องนอน






            ตุบ

            “แฮ่กๆ พี่...มันเสียวนะ”

            ร่างบางที่ทิ้งตัวบนเตียงนอนขนาดใหญ่หอบหายใจเฮือกใหญ่เพราะลมหายใจที่โดนช่วงชิงมาตลอดทาง มือเล็กทุบไหล่กว้างเบาๆ ก่อนจะโวยนิดๆ เพราะมือใหญ่ที่ลูบไล่ไปทั่วร่างกาย

            “อ๊ะ...พี่...อืม...ตรงนั้น...พี่”

            เสียงหวานครางออกมาอย่างหยุดตัวเองไม่ได้ มือเล็กขยุ้มกลุ่มผมสีเข้มของคนที่วุ่นวายอยู่แถวหน้าอกอย่างเสียดเสียว


            “หอมนะ”

            แทคอุนพูดสั้นๆ อย่างพอใจ มือใหญ่ลูบคลึงตุ่มไตกลางอกทั้งสองข้างราวกับว่ากลัวมันจะน้อยใจ ริมฝีปากร้ายกาจก็พรมจูบไปทั่วทุกพื้นที่จนถึงแผ่นท้องแบนราบ

            “พี่..อืม ผม เสียว...”

            “ดีแล้วที่รอบนี้ไม่ได้ไปญี่ปุ่น เพราะฉันคงไม่ยากให้นายโชว์กับฮัคยอนแค่สองคน”

            เสียงทุ้มติดเอาแต่ใจพูดขึ้นอีกรอบ มือใหญ่เลื่อนลงไปทางด้านล่าง ก่อนจะค่อยๆ แตะต้องกับช่องทางด้านหลังที่กำลังเกร็งตัว


            “อืม...ทะทำไมอ๊ะ...พี่...”

            ฮงบินที่กำลังโดนรังแกกลั้นใจถามอย่างสงสัย แต่กลับได้คำตอบเป็นเพียงแรงขยับที่มากขึ้น มือเล็กเลื่อนมากำหมอนหนุนใบนุ่มอย่างเสียดเสียวจนทำอะไรไม่ถูก

            “อ๊ะ...แน่น...แน่นไป”

            “อืม”

            เสียงหวานร้องอีกครั้งอย่างตกใจที่นิ้วของคนตรงหน้าถอนออกไป และถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่า ความใหญ่โตที่ค่อยๆ กดสอดเข้ามาทำให้เสียงครางของทั้งสองคนดังเคล้าคลอกันภายในห้องนอนกว้าง


           
            สวบ สวบ สวบ

            “แค่นายเต้นกันรอบนั้นฉันก็หวงแทบบ้าแล้ว ถ้าไม่ติดว่าทุกคนขอฉันไม่ยอมฉากนั้นแน่ๆ”

            สะโพกสอบขยับเร็วและแรงขึ้นเมื่อเห็นฮงบินเริ่มคุ้นชิน เสียทุ้มบ่นในลำคออย่างเอาแต่ใจ และอดไม่พอใจถึงการแสดงของฮงบินในเพลงToxinที่ตอนจอบฮัคยอนเดินมาจับฮงบินเอาไว้จนภาพออกมาดูเหมือนฮงบินกำลังยั่วยวนก็ทำเอาคนที่นิ่งตลอดอดไม่พอใจไม่ได้

            หน้าตาแบบนั้นของฮงบินเขาหวงมันมาก


            “พี่ อ๊ะ..หวงอะไร..อือ...แค่แสดงเอง”

            ฮงบินพยายามพูดกับคนด้านบนอีกรอบ แต่เสียงหวานกลับมาครางไม่เป็นศัพท์อีกครั้งเพราะแรงขยับจากร่างด้านบน สะโพกเล็กขยับรับกับสะโพกสอบอย่างเคยชิน เรียวขาทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นเพื่อเปิดทางให้ความใหญ่โตสอดเข้ามาได้ลึกยิ่งขึ้น


            “อือ พี่...เร็วๆ”

            เสียงหวานร้องขอออกมาอย่างลืมอาย มือเล็กเกาะเกี่ยวไหล่กว้างเอาไว้เพื่อพยุงตัวเมื่อการเคลื่อนไหวทั้งหมดรุนแรงขึ้น

            “อืม”

            เสียงทุ้มคำรามในลำคออย่างพอใจ สะโกพสอบขยับเร็วขึ้นเพราะรู้ว่าคนรักกำลังจะถึงปลายทางในอีกไม่ช้า


            “อื้อ แฮ่กๆ”

            ฮงบินร้องออกมาเมื่อปลดปล่อยออกมาจนเลอะไปทั่วทั้งหน้าท้อง ดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำเยิ้มมองคนรักตัวโตที่กำลำงขยับเข้าออกเร็วๆ อย่างพอใจที่เห็นอีกคนมีความสุข


            “อืม”

            และเพียงไม่กี่นาทีเสียงทุ้มก็ครางต่ำอย่างพอใจ ความอุ่นร้อนทั้งหมดปลดปล่อยออกมาจนแทคอุนรู้สึกได้ว่าฮงบินสะดุ้งนิดๆ ร่างสูงค่อยๆถอนตัวออกช้าๆ ดวงตาคู่คมสบตาร่างบางที่มองมาอย่างแสนรัก



            “คิดถึงมากนะ”

      อ่านต่องับบบบ จิ้มๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

SF: Beautiful Liar , Cowardly Liar {LeoBin} End

Beautiful Liar , Cowardly Liar

PS. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปินนะคะ เป็นชายxชายน้อ และดราม่านะคะ ไม่ชอบกดปิดเลย^^



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ sad love





…This Beautiful Lie
My one last lie to you

นี้เป็นคำโกหกที่แสนงดงาม
นี้เป็นคำโกหกสุดท้ายของผมเอง



            “มาแล้วเหรอ”

            เวลายามเย็นในสวนสาธารณะใหญ่ เสียงนุ่มทุ้มที่แผ่วเบาจนแทบจะกลืนไปกับเสียงลมพัดรอบตัวดังขึ้นทันทีที่เห็นคนที่รอเดินมาถึง ร่างสูงบนม้านั่งตัวยาวขยับตัวขึ้นเพียงนิดเพื่อให้อีกคนเดินมานั่งได้


            “พี่แทคอุนเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่า ไหนพี่บอกไม่ค่อยว่างไง”

            เสียงหวานถามกลับอย่างสงสัย ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มสวยกลับไปให้ ดวงตาคู่สวยปิดลงเมื่อเจ้าของมันยิ้มกว้างให้กับคนข้างตัว ลักยิ้มที่ปรากฏชัดยิ่งขับให้ใบหน้าหวานดูสวยหวานมากยิ่งขึ้น



            “ฉันมีเรื่องสำคัญต้องบอก”

            เสียงทุ้มพูดออกมาอย่างเคร่งเครียด ใบหน้าเรียบนิ่งฉายแววจริงจังจนคนมาใหม่หันมาตั้งใจฟังอย่างสนใจ ดวงตาคู่หวานฉายแววสงสัยจนคนมองอดนึกเอ็นดูท่าทางแบบนั้นไม่ได้

          ฮงบินน่ารัก จนเขากลัวที่จะทำร้าย และน่ารักจนเขาอยากปกป้องไว้







            “หึ ทำหน้าแบบนั้นทำไม ก็แค่จะพาไปดูหนังเรื่องที่อยากดูเฉยๆเอง”

            แทคอุนหลุดเสียงหัวเราะออกมาเพียงนิด ก่อนจะพูดต่ออย่างอดเอ็นดูคนตรงหน้าไม่ได้ มือใหญ่ยกขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มหลายทีจนเจ้าของผมเริ่มหันมาทำหน้างอนอย่างไม่ชอบใจ


            “ไม่ต้องมาจับเลยนะ เดี๋ยวนี้แกล้งกันแบบนี้เหรอพี่”

            ร่างบางลุกขึ้นจากม้านั่งอย่างรวดเร็ว ขาเรียวก้าวหนีไปตามทางเดินอย่างอดน้อยใจที่โดนแกล้งไม่ได้ เดือดร้อนให้คนขี้แกล้งในคราแรกต้องรีบเดินตามง้องอนจนคนที่เดินผ่านไปมายิ้มไปกับความน่ารักของคนทั้งคู่

           



¨¨¨¨¨¨Beautiful Liar¨¨¨¨¨¨




…even if it hurts
i hide myself under a mask to hide the truth

ถึงแม้มันจะเจ็บเจียนตายก็ตาม
ผมซ่อนตัวผมเองไว้ได้หน้ากากก็เพื่อคุณ..







            “โอ้ย เมื่อกี้พี่ได้ดูฉากที่พระเอกพยายามซ่อนตัวจากผู้ร้ายไหม ใจผมนี่เต้นตามเลยล่ะ”

            ทันทีที่ออกมาจากโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ เสียงหวานของคนที่ได้ดูหนังที่ตัวเองชอบก็เล่าเรื่องราวออกมาไม่หยุด เหมือนกับว่าแทคอุนไม่ได้ดูด้วยซ้ำ มือเล็กยังคงถือแก้วน้ำอัดลมแก้วใหญ่กับถังป็อบคอร์นที่เหลือเกินครึ่งเอาไว้



          “ฉันก็ดูนะ”

            “พี่นะชอบหลับประจำเลย ต่อให้เลือกเรื่องที่พี่อยากดูพี่ก็ชอบหลับ อ้อ แล้วยังจะไม่ช่วยผมกินขนมพวกนี้อีก ใจร้ายชะมัด”

         
            ไม่รอให้อีกคนได้เถียงกลับ ฮงบินก็บ่นออกมายาวเหยียด ปากเล็กยื่นออกมาน้อยๆอย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินเอาของในมือไปทิ้งลงถังขยะในจุดทางออกจากโรงภาพยนตร์



          “ขี้บ่นนะเรา”

            “เรียบร้อย ต่อไปเรา อืม ผมไปส่งพี่ดีกว่าเนอะ”

            เสียงหวานหันกลับมาพูดกับคนที่อยู่ข้างตัวอย่างเพิ่งนึกได้ ขาเล็กก้าวไปตามทางเดินริมถนนและทำเพียงมองบรรยากาศรอบตัวเงียบๆ
           






            “พี่รู้ไหม ผมเหงานะ”

            หลังจากปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งพื้นที่มานานหลายนาที ฮงบินก็ค่อยๆพูดออกมาเสียงสั่น ใบหน้าน่ารักก้มต่ำมองเพียงแค่พื้นของทางเดินที่ตัวเองกำลังเดินอยู่




            “พี่เงียบมาก เย็นชาที่หนึ่ง ชอบเอาใจผม ตามใจจนผมเคยตัวที่มีพี่อยู่ด้วย...”

            “แต่พี่รู้ไหม พี่น่ะใจร้ายที่สุดเลย”


             ฮงบินหยุดอยู่กับที่เมื่อถึงที่หมาย ดวงตาคู่สวยแดงก่ำและเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใส เสียงหวานพยายามพูดต่อแม้ว่ามันจะสั่นไหวจนน่าสงสาร







            “พี่น่ะ...ฮึก...พี่รักผมเกินไป ถ้าวันนั้น...”

            มือเล็กปิดปากตัวเองแน่นเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น ไหล่เล็กลู่ลง ร่างทั้งร่างสั่นเบาๆไปกับแรงสะอื้นที่ฮงบินพยายามหยุดมันเอาไว้





            “พี่ใจร้าย ใจร้ายที่สุด”

            ร่างบางทรุดนั่งลงบนพื้นอย่างน่าสงสาร มือเล็กพยายามปัดไล่น้ำตาที่ไหลอาบใบหน้า แต่กลับไร้วี่แววที่น้ำตามากมายจะหยุดไหลออกมา ดวงตาคู่สวยที่แดงก่ำมองภาพตรงหน้าอย่างเสียใจ




            “ถ้าแค่วันนั้นผมไม่โง่แบบนั้น พี่จะต้องอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้”

            ฮงบินตวาดลั่นอย่างเจ็บใจ มือเล็กไล่เบาๆตามรูปภาพขนาดเล็กที่แปะเอาไว้หน้าตู้กระจกราวกับว่ากลัวคนในภาพจะจางหายไป




            “รอยยิ้มแบบนี้ แววตาแบบนี้ ทำไมผมเห็นมันได้แค่ไม่นานนะ”

            ร่างบางร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นไม่ไหว มือเล็กกำเสื้อตรงช่วงหน้าอกเอาไว้แน่น เสียงร้องไห้ดังไปทั่วทั้งตัวอาคารจนคนที่เดินตามมาได้แต่ยืนนิ่งอย่างอดสงสารไม่ได้




            “ฮงบินพอเถอะ นายต้องยอมรับความจริงได้แล้วนะ”

            “ทำไม ทำไม”

            ฮงบินยังคงถามย้ำๆอยู่แบบนั้น ถึงแม้ว่าแจฮวานที่เดินเข้ามาหาจะประคองตัวเขาขึ้นมาจากพื้น ดวงตาคู่สวยบวมซ้ำจนดูน่าสงสาร





            “ฮงบิน ตั้งสติ แทคอุนไม่มีทางดีใจถ้านายจะยังเป็นแบบนี้อยู่”

            แจฮวานเขย่าไหล่น้องชายตัวเองอย่างอดกังวลไม่ได้ ดวงตาคู่สวยมองหน้าน้องชายอย่างสงสารจับใจ




            “พี่แจฮวาน ถ้าผมยิ้มเขาจะดีใจเหรอ ผมทำไม่ได้ เรายังไม่ทันได้ไปดูหนังเรื่องนั้นด้วยกันเลยนะ ยังไม่เคยไปทะเลด้วยกันตามที่สัญญา...”

            เสียงหวานที่ขาดห้วงพยายามพูดออกมายาวเหยียด ร่างบางทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านไปด้วยแรงสะอื้น




            “ฮงบินเชื่อพี่ แทคอุนไม่ได้อยากช่วยแล้วให้นายมาร้องไห้แบบนี้ แทคอุนช่วยเพราะอยากให้นายรอด เขาช่วยเพราะเขารักนายนะ”

            แจฮวานยังคงปลอบน้องชายตรงหน้าซ้ำๆ มือเรียวลูบแผ่นหลังของฮงบินหลายรอบจนคนที่นั่งร้องไห้ไม่หยุดเริ่มนิ่งลง แต่มือเล็กยกคงกำเสื้อตัวเองเอาไว้แน่นอย่างอดทน






…its a beautiful pain letting everything go
it kills me inside but I fake a smile
put on a poor disguise the weight I carried is now gone
So please don’t worry anymore oh I’m
มันเป็นความเจ็บปวดที่งดงาม ปล่อยคุณจากไป
ผมจำเป็นต้องทำร้ายตัวเอง กลืนน้ำตาของผมลงไป
และใส่หน้ากากยิ้มให้คุณ ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งอกมากๆ
ได้โปรดอย่างกังวลอะไรเกี่ยวกับผมอีกนะ










            “พี่แทคอุน...วันนี้เราได้ดูหนังด้วยกันแล้วนะ ผมสนุกมากเลย พรุ่งนี้ผมจะมาหาอีกนะ”

            ฮงบินค่อยๆมองตู้กระจกที่เก็บดอกไม้สำหรับญาติที่มาเยี่ยม เสียงหวานพยายามปรับให้นิ่งที่สุด มือเล็กลูบบนรูปภาพช้าๆราวกับจะบอกคนตรงหน้า ใบหน้าหวานยิ้มออกมาใบแบบที่ฮงบินรู้ดีว่าแทคอุนชอบรอยยิ้มของตัวเองมาแค่ไหน



          “ผมรักพี่นะ”

            เสียงหวานพูดออกมาแผ่วเบา ทว่าชัดเจนในความรู้สึกของทุกคนที่ได้ยิน ใบหน้าหวานยิ้มออกมาจนเต็มแก้ม ถึงแม้ว่าน้ำตาสีใสจะเริ่มไหลลงมาอีกรอบ



            แจฮวานทำได้เพียงดึงน้องชายเข้ามากอดจนแน่น มือเรียวยังคงลูบหลังน้องชายเพื่อปลอบใจอยู่แบบนั้น ความชื้นที่สัมผัสได้ผ่านเนื้อผ้าทำให้แจฮวานรู้ดีว่าน้องชายกำลังพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นมากแค่ไหน

            เสียงสะอื้นเงียบลงพร้อมๆ กับร่างของฮงบินที่ทิ้งตัวลงมาเพราะหมดสติ แจฮวานรีบประคองน้องชายเอาไว้แน่นเพื่อจะพาเดินออกไปขึ้นรถ จากวันที่จะมีความสุข วันนั้นกลับมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ฮงบินรอด รอดมาเพราะแทคอุนที่เข้าไปช่วยเอาไว้


            “นายอวยพรน้องฉันอยู่ใช่ไหม อ่า อยู่บนนั้นคอยดูน้องฉันอยู่ใช่หรือเปล่า..”
           
            แจฮวานพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบของอาคาร ร่างเพรียวโค้งต่ำให้กับตู้กระจกตรงหน้า ดวงตาคู่สวยสั่นไหวนิดๆอย่างอดสงสารคนทั้งสองไม่ได้


            “ขอบคุณนะแทคอุน ขอบคุณที่รักฮงบินมากขนาดนี้”

             
           




I’m a beautiful…
No, a cowardly liar
ผมน่ะ เป็นคนที่โกหกเก่ง...
ไม่สิ คนโกหกที่แสนขี้ขลาด

¨¨¨¨¨¨END¨¨¨¨¨¨

สกรีมหรืออะไรที่แท็ก #เชนอัพเลบิน เลยค่ะ
ถ้าเมนชั่นมิ้นด้วยก็ได้นะ แท็กโหลดไม่ค่อยขึ้นอ่ะค่ะ

Talk: ลง 14/02/16
ไม่มีคำแก้ตัวเลย วาเลนไทน์แบบนี่มิ้นใจร้ายมากที่ทำเรื่องแบบนี้ออกมา ขอโตดดด เป็นเรื่องแรกที่แต่งและยอมรับว่าดราม่า เพราะเขาไม่คู่กันอ่า ถ้ายังไงเม้นหรือแท็กได้นะ แท็กถ้าเมนชั่นมิ้นไปด้วยก็ได้เพราะทวีตโหลดแท็กไม่ค่อยขึ้นเลยช่วงนี้
            ไปแล้วค่ะ รักทุกเม้น ทุกวิว ทุกโหวต ทุกแฟนคลับ รักคนอ่านทุกคนน้อออ^^
              ทวีตมิ้นค่ะ จิ้มๆๆๆๆ