วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560

SF : PET [SanVi] 02 #ลูกหมาราวี่

SF : PET [SanVi] 02 #ลูกหมาราวี่





         #ลูกหมาราวี่ 02



          “หึ คนที่นายอ้าขาให้ทุกวันเขาเรียกว่าอะไรล่ะ”


            “ไอ้เลว”

            สิ้นเสียงร่างสูงที่พูดอย่างเหนือกว่าสายตาโกรธจัดก็ตวัดมามองอย่างไม่พอใจ แววตาดุดันไม่ต่างจากโกรธเกลียดคนที่ยังยืนยิ้มนิดๆ ริมฝีปากบางแค่นเสียงรอดลำคอเบาๆ อย่างอดกลั้น

            อดทนให้พยายามไม่ต่อยหน้ากวนๆ นั่น



            ปึก!

             แต่เหมือนความอดทนของวอนชิกจะมีไม่มากเท่าไหร่นัก ขายาวที่พาดบนโต๊ะตัวเตี้ยถูกยกขึ้นมาอย่างหวังว่าต้องประทับรอยเท้าบนแผ่นท้อง หรืออะไรก็ตามของคนตรงหน้าอย่างที่คิดว่ามันน่าจะช่วยระบายอารมณ์หงุดหงิดในตอนนี้ได้


            หมับ

            “อะไรกัน เป็นเด็กไม่น่ารักเลยนะ”

            มือใหญ่คว้าข้อเท้าที่ตรงเข้ามาทางหน้าท้องไว้อย่างรวดเร็ว เรียวขายาวภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำสีดำดูน่ามองไม่น้อยในความคิดของคนโตกว่า

            ก็น่ามองพอที่อะไรๆ ของเขาจะเริ่มรู้สึกก็แล้วกัน



            “ปล่อย” ร่างโปร่งกระตุกขาตัวเองแรงๆ อย่างหวังให้มันหลุดจากมือหนาๆ นั่นอย่างหงุดหงิดใจ

            ความจริงเขาก็ไม่ใช่คนตัวเล็กอะไร แต่เหมือนคนตรงหน้าจะจับจุดอ่อนของเขาได้มันทุกครั้ง อย่างเช่นในครั้งนี้



            “ทำไมล่ะ นึกว่าอยากให้จับ ไม่ชอบใช่ไหมเวลาโดนจับข้อเท้าแบบนี้”

            นิ้วยาวลูบเบาๆ ตามข้อเท้าเรียวตรงหน้า เสียงทุ้มนิ่งขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยอมปล่อยมือและผละออกไปยืนให้อีกคนนั่งได้สบายมากขึ้น




            “รู้แล้วยังจะทำ ประสาท”

            วอนชิกทำเพียงขยับตัวให้นั่งสบายมากขึ้น ร่างโปร่งเอนพิงไปกับพนักพิงของโซฟาอย่างเลิกที่จะสนใจคนที่เขาเพ่งออกปากต่อว่าไป




            หมับ


            “หมดฤทธิ์แล้วหรือไง”


            ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้อีกครั้ง เสียงทุ้มกระซิบริมใบหูของคนที่ตวัดสายตามองกลับอย่างเบื่อหน่าย ฝ่ามือร้อนจัดเริ่มเข้าวุ่นวายกับผิวที่นุ่มอย่างคนสุขภาพดีอย่างชอบใจ ถึงจะแข็งตึงกว่าผิวของผู้หญิงไปสักนิด แต่มันกลับเร้าอารมณ์ได้มากกว่าในความคิดของจองซาน

            ไอ้ที่เร้าอารมณ์ไม่รู้ว่าเพราะผิว หรือสายตาพยศของอีกคนกันแน่




            “พรุ่งนี้มีเรียนเช้า พี่คงอยากให้ผมจบปีนี้ถูกไหม”


            มือเรียวจับข้อมือที่เริ่มสอดเข้ามาตามหน้าท้องไว้แน่น น้ำเสียงจริงจังเอ่ยห้ามออกมา ก่อนจะกัดปากจนแน่นเมื่อมือใหญ่ขืนเอาไว้ และเลื่อนลงมาสัมผัสใกล้ส่วนไวความรู้สึกมากขึ้นแทนที่จะหยุดตามที่เขาต้องการ




            “เวลาเดิม? คืนนี้นอนเร็วหน่อย พรุ่งนี้ก็ตื่นก่อนสักชั่วโมง ฉันขับรถไปทันแน่”


            ดวงตาคู่คมเหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ ก่อนจะหันมาต่อรองกับเด็กดื้อบนโซฟา มือใหญ่กดสัมผัสหนักขึ้นจนกล้ามเนื้อจางๆ ที่เรียงตัวสวยหดเกร็งจนรู้สึกได้





            “อ่า...พี่แม่งเห็นแก่ตัว”


            ริมฝีปากบางเผยอเล็กน้อย หอบหายใจเบาๆ เมื่อมือใหญ่เริ่มวุ่นวายกับชั้นในสีเข้มที่ติดตัวอยู่ แต่กลับไม่ยอมกระชากทิ้งอย่างที่เจ้าตัวชอบทำอย่างเอาแต่ใจ ฝ่ามือร้อนผ่าวเอาแต่เกลี่ยไล้ไปมาตามโคนขาทั้งสองข้างมากกว่าจะสัมผัสอะไรที่มันเริ่มแสดงความน่าอายออกมา


            เขาว่าคนเมารู้สึกง่ายถ้าจะจริง เพราะแค่มีแอลกอฮอล์อยู่แค่ไม่กี่ขวด วอนชิกก็ยังนึกโกรธร่างกายตัวเองแทบบ้า





            “ปากเก่งเหมือนเดิมนะ”



            “อือ...”


            ริมฝีปากร้ายกาจกดลงมารวดเร็วจนคนที่กำลังหวาดระแวงสัมผัสต่างๆ เบิกตาตกใจ เรียวลิ้นร้ายกาจไล่ต้อนอย่างนึกสนุกเมื่อเห็นว่าเด็กพยศยังคงพยายามขยับหนี หยาดน้ำสีใสไหลซึมขอบปากร่างโปร่งเมื่อมีใครยอมแพ้ในครั้งนี้ คนที่เริ่มโดนคุมเกมหอบหายใจเบาๆ อย่างไม่ยอมที่จะร้องขอโอกาสหายใจจากอีกคน





            “อือ...พี่อยากอะไรขนาดนี้วะ”


            ร่างสูงยอมปล่อยให้อีกคนได้หายใจเมื่อเห็นว่าแผ่นอกขยับขึ้นลงรุนแรงแค่ไหน จมูกโด่งเกลี่ยละไปตามลำคอและแผงอกที่มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยอย่างพอใจ กดจูบเบาๆ พอให้มีรอยจางๆ จนรู้สึกถึงแรงที่ขยุ้มผมเบาๆ น้ำเสียงที่ทั้งแหบพร่า และเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ยังไม่วายที่จะจิกกัดเขามากกว่าปล่อยเสียงครางเบาๆ ที่เจ้าตัวพยายามกลั้นออกมา




            “อยากนาย พอใจไหม”


            พรึ่บ

            ร่างสูงผละออกมามองผลงานที่นอนตัวอ่อนยวบบนโซฟาอย่างพอใจ ร่างโปร่งที่นอนหอบหายใจอย่างที่เจ้าตัวคงรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เสื้อคลุมอาบน้ำตัวสวยถูกเขาร่นให้ร่วงจากหัวไหล่ทั้งสองข้าง ริมฝีปากบางเผยอออกน้อยๆ อย่างพยายามระบายเสียงครางออกมาให้น้อยที่สุดเลอะไปด้วยหยาดน้ำสีใสที่ริมขอบปาก เรียวขายาวที่เขายืนแทรกกลางก็อวดเรียวขาขาวที่มีกล้ามเนื้อพอน่ามองน้อยๆ ไหนจะชั้นในสีแดงเข้มที่เห็นเล็กน้อยนั่นอีก

            คิม วอนชิกยั่วอารมณ์เขาไปซะทุกอย่างจริงๆ





            “อือ! พี่...พอก่อน”

            มือใหญ่ดึงชั้นในสีแดงเข้มออกมาอย่างรวดเร็ว ดันขาเรียวขึ้นข้างหนึ่งเพื่อปล่อยให้ชั้นในมันไปเกี่ยวทิ้งไว้ที่ขาอีกข้าง ส่งนิ้วทั้งสองเข้าไปสำรวจความอุ่นร้อนที่ทำให้เขาพอใจในทุกครั้งอย่างรวดเร็วจนร่างโปร่งสั่นไปทั้งตัว เสียงแหบพร่าเอ่ยห้ามก็สั่นสะท้านจนน่าขำขึ้นมา

            บางทีวอนชิกก็ดูไม่เจนโลกเลยสักนิด ไม่เท่าคนอื่นที่เขาเคยสนุกด้วยสักครั้ง





            “นายทำฉันหมดความอดทนจริงๆ”

            มือใหญ่ยังคงขยับอย่างไม่ฟังเสียงร้องห้ามของคนที่หอบหายใจสักนิด มือเรียวของร่างบนโซฟาแทบจะรั้งข้อมือที่ส่งแรงกระตุ้นเร็วๆ อยู่หลายครั้ง แต่เหมือนร่างสูงจะรู้ตัวไปเสียทุกครั้ง เพราะเพียงแค่วอนชิกเอื้อมมือลงมาเพื่อจะห้าม นิ้วเรียวกลับกดเข้าจุดอารมณ์แรงๆ จนสติที่มีแตกกระจาย ในสมองขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออก


            “ถอดไปเถอะ”

            มือใหญ่ข้างที่ว่างกระตุกปมเสื้อคลุมอาบน้ำออกอย่างง่ายดาย จองซานยอมถอดถอนสัมผัสที่กำลังรังแกคนเด็กกว่าออกอย่างนึกเสียดาย ปลดเสื้อคลุมอาบน้ำและชั้นในที่เกี่ยวค้างอยู่ทิ้งไป สำรวจผิวเรียบนุ่มของอีกคนอย่างพอใจ




            หมับ

            “จะทำอะ อึก!

            ร่างโปร่งตวาดถามอย่างไม่พอใจที่ถูกพลิกหน้าเข้ากับพนักพิงโซฟา ชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นจนตัวเขาเองรับรู้ได้ว่ากำลังเปิดเผยร่างกายให้อีกคนเห็นมากแค่ไหน แต่ก็ทำได้เพียงกำมือทั้งสองข้างกับพนักพิงของโซฟาแน่นเมื่อกายร้อนของอีกคนกดเข้ามารวดเดียวจนสุด ความจุกตีขึ้นมาจนทำได้เพียงหอบหายใจหวังเพื่อให้มันระบายสัมผัสอึดอัดจากคนเอาแต่ใจนั่นบ้าง





            “อืม...เก่งมากเด็กดี”

            มือใหญ่ลูบแผ่นหลังของคนตรงหน้าช้าๆ สำรวจรอยสักใหม่ที่อีกคนเพิ่งจะไปทำมาไม่นานอย่างไม่ได้สนใจมากนัก ขยับสะโพกเข้าออกรัวเร็วอย่างเอาแต่ใจเมื่อความอุ่นร้อนที่โอบรัดอยู่มันกระตุกตอบรับจนแทบบ้า หยาดเหงื่อที่ไหลซึมน้อยๆ ตามผิวหนังยิ่งทำให้วอนชิกดูน่ามองมากยิ่งขึ้น






            “เมื่อไหร่จะเลิกสักเพิ่มสักที”

            จองซานถามต่ออีกครั้งเมื่อสังเกตว่ารอยสักตรงแขนเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกจุด อาจจะพร้อมๆ กับดีเทลเล็กๆ รูปทางช้างเผือกของรอยสักกลางหลัง แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้คงจะหวังคำตอบจากคนที่ปล่อยแต่เสียงที่ฟังไม่เป็นศัพท์ออกมาไม่ได้เท่าไหร่นัก






            “เรื่อง...ของผม”

            วอนชิกยังคงพยายามเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ นิ้วเรียวแทบจะจิกทึ้งหนังของพนักโซฟาอย่างเสียดเสียว ท่านั่งชันเข่ายิ่งทำให้ขาทั้งสองข้างมันสั่นจนแทบจะล้มพับเมื่ออีกคนยังคงส่งสัมผัสรุนแรงเข้ามาอย่างเอาแต่ใจ กระตุ้นจุดอารมณ์รุนแรงหลายครั้งจนเขาแทบจะปลดปล่อย ไหนจะมือใหญ่ที่สะกิดเขี่ยยอดอกทั้งสองข้างอย่างไม่กลัวว่ามันจะแดงซ้ำนั่นอีก





            “พอเถอะ..ผม...อืม”

            น้ำเสียงแหบพร่างพยายามเค้นเสียงพูดออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะปลดปล่อยในไม่ช้า แต่แรงกดสอดจากคนด้านหลังก็ไม่ได้ลดลงตามที่ร้องขอสักนิด ร่างโปร่งสั่นน้อยๆ ก่อนหยาดน้ำสีขุ่นจะเลอะโซฟาหนังที่เกาะเกี่ยวเอาไว้อย่างทนไม่ได้






            หมับ

            “ไม่เกินเที่ยงคืนหรอก”

            มือใหญ่พลิกร่างของคนที่ทรุดลงเล็กน้อยหลังเจ้าตัวถึงฝั่งฝันให้หันหน้ากลับมาทางเขา มือเรียวทั้งสองข้างยันตัวเองเอาไว้ให้นั่งมั่นคงมากขึ้น เรียวขายาวทั้งสองข้างตั้งชันขึ้นตามแรงบังคับที่เขาจับขึ้นมา ก่อนสะโพกสอบจะกดเข้าออกเร็วๆ จนรู้สึกถึงร่างด้านใต้กระตุกรับความอุ่นร้อนที่เขาฉีดพ่นเข้าไปจนไหลเปื้อนสะโพกด้านนอกของร่างโปร่ง





            “ถุงยางไม่มีหรือไง”

            วอนชิกบ่นอย่างหัวเสียเมื่อคิดถึงเลาที่เขาต้องมาจัดการไอ้สิ่งสกปรกพวกนี้ในทีหลัง พยายามจะยันตัวลุกขึ้นเพื่อไปจัดการทำความสะอาดตัวเองในห้องน้ำ





            “ไปไหน ยังไม่เที่ยงคืนเลย”

            มือใหญ่กดไหล่ของคนที่กำลังจะยันตัวเองให้หลุดออกจากแก่นกายที่เชื่อมต่ออยู่ให้นั่งอยู่กับที่ ขยับสะโพกช้าๆ แต่กลับโหมอารมณ์รุนแรงเมื่อครู่ให้เกิดขึ้นอีกครั้งง่ายๆ ใบหน้าของคนโตกว่ายกยิ้มบาง แต่กลับดูน่าขนลุกไม่น้อยในความคิดของวอนชิก






            “อย่าหลับก่อนเที่ยงคืนแล้วกัน”





----------------------------

ไปอ่าต่อเล้ยยยยยยยยยยยยยย จิ้มมมมมมมมมม